Page 11 - pangnga of happiness
P. 11

8                                                                        9





 คำานิยม         เรื่องการรับมือสึนามิ ที่มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (โดย นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์
                 เลขาธิการ) ตัดสินใจให้การสนับสนุนงบประมาณอย่างรวดเร็ว รัดกุม และม ี
                 ประสิทธิภาพ
                       คนท่ไม่ร้จักความทุกข์จะเติบโตอย่างม่นคงไม่ได้ฉันใด สังคมท่ไม่ร้จัก
                                                    ั
                             ู
                          ี
                                                                      ี
                                                                         ู
                 ความทุกข์ร่วมกันก็ไม่มีชีวิตในอนาคตฉันนั้น ข้อคิดนี้มาจากการที่ความเจริญ
                                      ำ
                               ั
                                                                          ึ
                                             ั
                                                     ู
                 และการแพทย์สมยใหม่ ทาให้เราทงหลายอย่ห่างไกลความตายกันมากข้น
                                             ้
                 ความเจริญจากเทคโนโลยีทาให้เราได้รับความสะดวกสบายมากมายในชีวิต
                                      ำ
                 ประจำาวัน ทั้งการแพทย์และเทคโนโลยีทางวัตถุมีผลต่อเรา จนรู้สึกเคยชินไป
                 ว่า ความสะดวกสบาย “เป็นธรรมชาติ” การอยู่ไกลความตาย และห่างไกล
 ู
 ื
 ื
 ผมร้จักพังงาผ่านเร่องราวความสวยงามของเกาะ เพราะมีเพ่อนเคย  ความทุกข์ “เป็นธรรมชาติ” สภาพความเคยชินอย่างนี้ทำาให้เราลืมตาย และ
 ทำางานด้านธุรกิจที่นั่นเล่าให้ฟัง แต่ที่เรียนรู้ “พังงา” จริงๆ ครั้งแรกนั้นมาจาก  ลืมการร่วมทุกข์ในชีวิตที่ต้องเผชิญบนผืนพิภพเดียวกันไป
 ิ
 ่
                                   ี
 ่
 ี
 ่
 ื
 ่
 ึ
 สนามิ-อทกภยอนยงใหญในปลายเดอนธนวาคมป พ.ศ. 2547 ไมกสปดาห ์  ประสบก�รณ์ท่ได้เรียนร้จ�กบทเรียนพังง�กับสึน�มิ และท่ได้เรียน
 ั
                                                                     ี
                                          ู
 ุ
 ั
 ั
 ี
 ั
 ่
 ้
 ื
 ้
 ู
 ี
 ี
 ิ
 ้
 ิ
 ั
 ุ
 ิ
 ั
 หลงจากเกดภัยพบตมหาสมทรครงแรกทประเทศไทยรจัก ผมมโอกาสลงพนท ่ ี  รู้จ�กคุณไมตรีม�หล�ยปีต่อเนื่องทำ�ให้ผมสรุปว่� “ชีวิตจริง” นั้น ขึ้นอยู่
 ั
 ที่บ้านน้ำาเค็ม วัดบางม่วง และในจุดสำาคัญๆ อื่น   กับก�รรู้จัก (รับมือกับ) คว�มทุกข์ และสังคมจะมีสุข “ได้” ต้องเติบโตไป
 สิ่งที่สะเทือนใจคือ ความร้ายแรงของภัยพิบัติ ผลกระทบต่อบ้านเรือน   ท่�มกล�งก�ร “ร่วมทุกข์กันได้”
                                                            ี
                                            ำ
                                     ำ
                                          ี
 ชีวิตผ้คน และสภาพแวดล้อม ลักษณะนานาชาติและหลากหลายวัฒนธรรม  คุณไมตรีเป็นคนสาคัญท่ทาให้ผมสัมผัสกับสิ่งท่วิชาการเรียกกันว่า
 ู
 ของหมู่คนผู้ร่วมชะตากรรมเดียวกัน และเหนือไปกว่านั้นคือ ปฏิกิริยาของคน  Social Resilience (อ่านว่า โซเชียลเรซิเลียนซ์) อย่างเป็นรูปธรรม เพราะเขา
                                           ี
 ื
 ่
 ี
 ่
 ี
 และสังคมต่อเร่องร้ายแรงเหล่าน้ ในท�มกล�งผ้คนท่ผ�นพบในสถ�นก�รณ ์  สูญเสียคุณพ่อและบุคคลอันเป็นท่รักในครอบครัวใกล้ชิดไปเกือบ 30 คนใน
 ู
                         ั
                      ั
                         ้
                                ่
                               ่
                                                                ็
                                                                 ั
                           ั
                           ้
                                                                          ื
                                                              ี
                                                          ู
                                                                     ่
                                                 ้
                  ั
                     ิ
 ยุ่งเหยิงและโกล�หลหลังเหตุก�รณ์สึน�มิ มีบุคคลหล�ยคนที่ได้รู้จักและ  ภยพบติครงนน แตทามกลางความโศกเศราจากความสญเสยกตดใจชวยเหลอ
                                                ั
                   ี
                  ู
                                      ื
 ึ
 ยังไม่เคยลืม โดยเฉพ�ะคุณไมตรี จงไกรจักร แห่งบ�นนำ�เค็ม เป็นคนหน่ง  ผ้ท่ประสบเคราะห์กรรมคนอ่นๆ นับแต่น้นเป็นต้นมา กล่าวได้ว่าประสบการณ ์
 ้
                                                    ำ
                                                                    ื
                                                           ู
 ี
 ท่มีคว�มพิเศษไม่เหมือนไคร เป็น “ครู” ท่ไม่มีสังกัด แต่กล�ยเป็นคน  และคุณสมบัติบางประการในตัวและในชีวิตทาให้ “ผ้ตกเป็นเหย่อ” (ผู้ถูก
 ี
 ั
 ี
 ี
 ่
 ู
                     ำ
 ุ
                                                      ำ
 สำ�คัญท่สุดท่กระต้นคว�มร้สึกนึกคิดของผมตอนน้น จนผมได้ข้อคิดว�   กระทา) แปรสภาพตนเองกลายไปเป็น “ผ้กระทา” ต่อสถานการณ์ได้อย่าง
                                                  ู
 ู
 ้
 ก�รรับมือของผ้คนและสังคมต่อเร่องภัยพิบัติร�ยแรงเป็นประวัติก�รณ  ์  น่าสังเกตและพิเคราะห์ยิ่ง ประสบการณ์ชีวิตหลายๆ ปีที่เลือกเอง ทำาให้คุณ
 ื
                                                                 ั
                                                       ั
                                                                         ิ
                                                             ุ
                                                                      ั
                                                                    ื
                                           ั
                                             ู
                                     ั
                     ี
                             ็
                                             ้
                                                     ั
                                                  ็
                                              ำ
 ำ
 ่
 ี
 ิ
 ิ
 ี
 น้กระมังท่น�จะเป็นบทเรียนชุดใหญ่ท่สำ�คัญย่งของตนเอง ส่งสาคัญ   ไมตรได้กลายเปนอาสาสมครระดบผนา เปนนกพฒนาชมชนรบมอภยพบัต ิ
 ี
                                                          ิ
                                                     ำ
 อย่างน้อย 2 เรื่องที่ตอนนั้นตัดสินใจทำาคือ การนำานิสิตในวิชา “สังคมวิทยา  ตัวยง และเป็นนักบริหารจัดการด้านสังคมคนสาคัญย่งในภาคประชาชนและ
 ชนบท” ที่ผมรับผิดชอบลงศึกษาภาคสนามในพื้นที่ และดำาเนินโครงการวิจัย  ของภาคประชาสังคมของเมืองไทย
   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16