Page 5 - ชุมชนศรัทธา "กัมปง ตักวา" ทางรอดของการแก้ปัญหา
P. 5
เชิงสังคมจิตวิทยา ก็กลับสุดโต่ง มุ่งชนะใจประชาชน ด้วยวิธีการสงเคราะห์ ด้วยโครงการ สงเคราะห์
ด้วยโครงการประชานิยม และกิจกรรมมากมาย แต่ขาดกระบวนการพัฒนาที่ถูกต้อง ไม่มีความต่อเนื่อง
ิ
่
ิ
็
่
ทำให้ประชาชนอ่อนแอ รวมทั้งความไมเปนเอกภาพในเชงการบรหารเพราะภาคสวนราชการ
่
ั
ยงทำงานแบบแยกสวน ขาดการบูรณาการทั้งงบประมาณและบุคลากร ต่างฝ่ายต่างคิด ต่างฝ่ายต่างทำ
ผลกรรมสุดท้ายตกอยู่กับประชาชน และก็ไม่ได้ชนะใจประชาชนใดๆ ทั้งสิ้น กลับเพิ่มความ
ไม่น่าเชื่อถือด้วยซ้ำไป”
แล้ว ยังชี้ให้เห็นอีกด้วย ว่าการพัฒนาที่แล้วมาล้มเหลว เพราะขาดมิติ
่
่
ิ
้
้
ู
ู
ของศาสนธรรม ขาดการมีสวนร่วมของประชาชน ไมไดเปดโอกาสให้คณะผ้นำในหม่บาน (ผู้ใหญ่บ้าน
โ ต๊ ะ อิ ห ม่ า ม ผู้ แ ท น อ บ ต . แ ล ะ ผู้ น ำ ธ ร ร ม ช า ติ ) ไ ด้ แ ส ด ง บ ท บ า ท ร่ ว ม กั น
กระบวน การพัฒนาที่เอกสารนี้นำเสนอ เป็นกระบวนการที่พื้นที่เป็นหลัก
มีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่เป็นสิ่งสำคัญ โดยใช้การศาสนาเป็นกรอบที่อ้างอิง
้
ของกิจกรรมการพัฒนา ในการปฏิบัติงานให้ ๔ เสาหลัก คือ ผู้ใหญ่บ้าน โต๊ะอิหม่าม ผแทนอบต.
ู
ื
่
ั
ื
็
ั
่
ิ
่
้
ู
ั
และผนำธรรมชาตทำงานรวมกน โดยอาศยหลกการศาสนาเปนเครองเชอมความสามัคคี แทนที่การ
แบ่งอำนาจและการใช้อำนาจซึ่งมักทำให้เกิดความขัดแย้ง
ผมคิดว่าการนำเอาหลักศาสนาที่ถูกต้องและวัฒนธรรมเป็นหลักในการพัฒนาแทนเงนตรา
ิ
และอำนาจ การที่เอาคุณธรรมนำเศรษฐกิจ จะทำให้เกิดการพัฒนาที่แท้จริงและยั่งยืนขึ้นได้ ความขัด
แย้งระดับชาติจะแก้ไขได้ก็ด้วยการสร้างชุมชนเข้มแข็ง มีความสามัคคี และพึ่งตนเอง
“ความจริงคนในพื้นที่ไม่ได้แยกระหว่างเรื่องทางโลกกับทางศาสนธรรม
แต่กระบวนการของระบบประเทศเราจะแยกเรื่องทางโลกและทางธรรมออกจากกัน
ทำให้เรื่องของคุณธรรม จริยธรรม ก็ไปอยู่มุมหนึ่ง จะไม่มายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของงานพัฒนาอันนี้เป็นจุดอ่อน
อย่างย่งของการปกครอง เช่นเดยวกันในระดบหม่บ้าน/ชุมชน ผ่านศาสนา
ี
ู
ิ
ั
ื
ุ
ี
หรือโต๊ะอิหม่าม จำกัดพ้นท่ของการทำงานจะม่งเพียงแต่ในเร่องของพิธีกรรมศาสนา
ื
โดยไม่มายุ่งเกี่ยวกับปัญหาความเป็นอยู่ของคนในหมู่บ้านเท่าใดนัก เป็นการแยกส่วนกัน
โดยสิ้นเชิง แต่ในกระบวนการของ “หมู่บ้าน/ชุมชนศรัทธา” จะไม่มีการแยกส่วน
และให้มีบูรณาการเป็นเนื้อเดียวกันได้
(ดร.ม.ร.ว.อคิน รพีพัฒน์)